ประวัติและความเป็นมาของสิ่งที่เรียกว่า “บ้าน”

บ้านทรงไทย

ประวัติและความเป็นมาของสิ่งที่เรียกว่า “บ้าน”

เชื่อว่าคงมีความคิดหลากหลายที่จะให้คำนิยมของ “บ้าน” ไม่ว่าจะเป็นเป็นสิ่งก่อสร้างให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้เป็นที่กิน ที่นอน ที่พักผ่อนหย่อนกาย ที่ให้ความอบอุ่น ซึ่งหมายรวมถึงบ้านที่มีลักษณะเป็นอาคาร เช่น คอนโด หรือห้องพัก เช่น แฟลต เป็นต้น หากจะให้คำนิยมของคำว่าบ้าน ในที่นี้ผู้เขียนได้ลองค้นคว้ามาดังนี้

บ้านคืออะไร

บ้านทรงไทย
บ้านทรงไทย

บ้าน หรืออาจจะเรียกว่า ภูมิลำเนา ก็ได้ คือ พื้นที่ที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยทั้งที่เป็นแบบถาวรหรือกึ่งถาวร โดยอาจจะอยู่กันเป็นกลุ่มบุคคลหรือครอบครัว อาจจะมีพื้นที่เต็มหรือกึ่งกำบังก็ได้ สามารถมีพื้นที่ได้ทั้งด้านในและด้านนอก ทั้งนี้บ้านสามารถมีห้องต่างๆ ที่สามารถให้ทุกคนที่อาศัยได้ทำกิจกรรมในบ้านได้ เช่น การพักผ่อนนอนหลับ การเตรียม ประกอบและรับประทานอาหาร รวมถึงไปด้านสุขอนามัย นอกจากนี้ยังสามารถจัดให้มีพื้นที่สำหรับการสวดมนต์ไหว้พระ การทำงาน และการออกกำลังกาย การเรียนและการเล่น การทำงานที่บ้าน หรือที่เรียกว่า Work From Home(WFH) ทั้งนี้บ้านอาจจะมีลักษณะทางกายภาพเป็นแบบคงที่ เช่นบ้านหรืออพาร์ตเมนต์ หรือเป็นบ้านเคลื่อนที่ได้ เช่น เรือนแพรถพ่วง หรือกระโจม หรือแม้กระทั่งบ้านในโลกดิจิทัล เช่น พื้นที่เสมือนจริง บ้านในเกม เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันจากไลฟ์สไตล์ของผู้คน และความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ได้เป็นสิ่งที่กำหนดวิถีชีวิต และการทำงานของประชากรทั่วโลกใหม่ ทำให้บ้านเป็นแนวคิดที่ขยายออกไปมากกว่าที่อยู่อาศัย

บ้านมีประวัติความเป็นมาอย่างไร

ถ้ำบ้านแห่งแรกของมนุษย์
ถ้ำบ้านแห่งแรกของมนุษย์

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่า ภาพศิลปะบนหินสำหรับเด็ก Taíno petroglyphs ในถ้ำที่เปอร์โตริโก ถือได้ว่าถ้ำเป็นบ้านที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์อาศัยอยู่ และเป็นบ้านที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งตลอดประวัติศาสตร์ของชนชาติดึกดำบรรพ์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ ได้ใช้ประโยชน์จากถ้ำในการเป็นที่อยู่อาศัย ที่พักพิงและหลบภัย ซึ่งปรากฏซากดึกดำบรรพ์ของมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุด ที่พบในถ้ำมาจากถ้ำหลายแห่งใกล้หมู่บ้าน Krugersdorp และ Mokopane ในแอฟริกาใต้ หรือบริเวณถ้ำ Sterkfontein, Swartkrans, Kromdraai B, Drimolen, Malapa, Cooper’s D, Gladysvale, Gondolin และ Makapansgat ได้ให้พันธุมนุษย์ยุคแรก ๆ ที่มีอายุตั้งแต่ 1-3 ล้านปีก่อน รวมทั้งพันธุมนุษย์ที่สูญพันธ์ไปแล้ว อย่าง Australopithecus africanus, Australopithecus sediba และ Paranthropus robustus

Taíno petroglyphs - Arts Rock for Child
Taíno petroglyphs – Arts Rock for Child

นอกจากนี้ยังพบหลักฐานมากมายสำหรับมนุษย์ยุคแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในถ้ำตั้งแต่อย่างน้อย 1 ล้านปีก่อน ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลกรวมถึง Homo erectus เช่น ในประเทศจีนที่ Zhoukoudian, Homo rhodesiensis ในแอฟริกาใต้ที่ Cave of Hearths (Makapansgat), Homo neandertalensis และ Homo heidelbergensis ในยุโรปที่ Archaeological Site of Atapuerca, Homo floresiensis ในอินโดนีเซีย และ Denisovans ทางตอนใต้ของไซบีเรีย

ในแอฟริกาตอนใต้มนุษย์ยุคแรก เริ่มใช้ถ้ำริมทะเลเป็นที่พักพิงเป็นประจำเริ่มตั้งแต่ 180,000 ปีก่อน เมื่อพวกเขาเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากทะเลเป็นครั้งแรก โดยแหล่งที่อยู่ที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักคือ PP13B ที่ Pinnacle Point ( แหลมเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของมอสเซลเบย์เมืองบนชายฝั่งทางตอนใต้ของแอฟริกาใต้ ) สิ่งนี้อาจทำให้มนุษย์ขยายตัวอย่างรวดเร็วออกจากแอฟริกาและการล่าอาณานิคมของพื้นที่ต่างๆในโลกเช่นออสเตรเลียเมื่อ 60–50,000 ปีก่อน ทั่วแอฟริกาตอนใต้ ออสเตรเลียและยุโรป มนุษย์ยุคใหม่ในยุคแรกใช้ถ้ำ และที่พักพิงหินเป็นสถานที่จัดแสดงศิลปะบนหิน เช่นที่ปราสาทไจแอนต์ ถ้ำเช่นเหยาตงในประเทศจีนถูกใช้เป็นที่พักพิง ถ้ำอื่น ๆ ถูกใช้ในการฝังศพ (เช่น สุสานหิน) หรือเป็นสถานที่ทางศาสนา (เช่น ถ้ำทางพุทธศาสนา) ในบรรดาถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ ถ้ำพระพุทธรูปนับพันของจีน และถ้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งเกาะครีต